ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเริ่มตรงไหน? รวมประโยคที่ใช้ได้ในทุกวัน!

พอนึกถึงการพูดภาษาอังกฤษ อาจทำให้หลายคนกังวลไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ? ไม่ว่าจะเป็นน้องๆ นักเรียนนักศึกษาที่ต้องเตรียมตัวสอบ Speaking หนุ่มสาวออฟฟิศที่ต้องพูดภาษาอังกฤษตอนพรีเซนต์งาน หรือแม้แต่เหตุบังเอิญตอนที่ต้องบอกทางกับนักท่องเที่ยว เพราะในสถานการณ์จริงที่ต้องพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร บางครั้งเราก็อาจจะตื่นเต้นจนนึกคำศัพท์หรือประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานไม่ออก

แล้วถ้าอยากใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันให้เก่งขึ้น ต้องเริ่มจากตรงไหน? มาหาคำตอบกันเลย

ทำไมการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารยากจัง?

คงเป็นคำถามที่ใครๆ ก็เคยพูดออกมากันทั้งนั้น ทั้งที่ในความจริง พอลองศึกษาดูดีๆ ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันไม่ใช่คำที่ซับซ้อนอะไรเลย เช่น Hello, Good Morning, Thank you, Goodbye, How are you? เป็นต้น ซึ่งสาเหตุที่เรายังไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว ก็เป็นเพราะ “ขาดการฝึกฝน” ให้คุ้นชินนั่นเอง เนื่องจากไม่ได้มีโอกาสที่จะได้พบเจอเจ้าของภาษาหรือได้พูดภาษาอังกฤษในทุกๆ วัน

พอทราบเช่นนี้แล้ว คงไขข้อสงสัยของหลายๆ คนได้ สำหรับใครที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษ ก็ขอแนะนำให้ฝึกฝนการพูดอย่างสม่ำเสมอ โดยอาจจะเริ่มการฝึกพูดหน้ากระจก ลองพูดกับเพื่อนๆ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยและคล่องแคล่ว จนสามารถต่อบทสนทนาได้แบบไม่ติดขัดนั่นเอง

ต่อไป มาดูตัวอย่างคำศัพท์และตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษที่สามารถนำไปใช้ได้กับสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันกันเลย

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษในสถานการณ์ต่างๆ

การทักทาย ทำความรู้จัก

แน่นอนว่าสำหรับคนที่เจอกันครั้งแรกก็ต้องเริ่มพูดคุยจากการทักทายแนะนำตัวกันก่อน เชื่อว่าตัวอย่างคำศัพท์ต่อไปนี้อาจเป็นคำที่หลายคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว คือ

• Hello, Hi – สวัสดี (ทักทายแบบเป็นกันเอง)
• Good Morning, Good Afternoon, Good Evening – อรุณสวัสดิ์, สวัสดีตอนบ่าย, สวัสดีตอนเย็น (มักใช้กับการทักทายอย่างสุภาพและเป็นทางการ)
• Nice to meet you – ยินดีที่ได้รู้จัก

พอเริ่มต้นทักทายด้วยคำศัพท์เหล่านี้แล้ว ต่อมาก็อาจเป็นการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ซึ่งก็ถือว่าเป็นมารยาทอย่างหนึ่งที่ควรทำ ตัวอย่างประโยคเช่น

• Hi Oliver, how are you doing? – สวัสดีโอลิเวอร์ คุณเป็นยังไงบ้าง?
• Good morning Mr. Jeff, it’s nice to meet you. – อรุณสวัสดิ์คุณเจฟ ยินดีที่ได้รู้จัก

หลังจากกล่าวทักทายไปแล้ว แน่นอนว่าอีกฝ่ายต้องตอบกลับอย่างแน่นอน ซึ่งก็อาจเป็นคำถาม How are you doing? เหมือนกับที่เราถามไปก็ได้ ซึ่งเราอาจจะตอบไปว่า

• I am fine / I’m good / I am do well – ฉันสบายดี
• Not too bad / So so – เฉยๆ (ไม่ได้มีอะไรแย่หรือดี)
• I’m not feel well – ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีหรือไม่ค่อยสบาย และบอกต่อไปเลยว่าเป็นอะไร เช่น I’m having a headache (ปวดหัว), I’m sick (ป่วย, เป็นหวัด) เป็นต้น

นอกจากนั้น เจ้าของภาษาก็มักจะมีคำถามอื่นๆ ตามมา อาทิ

• Where are you from? – คุณมาจากไหน (อาจตอบเป็น Thailand หรือชื่อจังหวัดที่เราเกิด)
• What’s your job? / What do you do? – คุณทำงานอะไร?
• How old are you? – คุณอายุเท่าไหร่?

การเดินทาง การท่องเที่ยว

บางครั้งเราอาจมีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศ หรือได้เจอนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมเมืองไทย นอกจากการใช้ภาษามือชี้ๆ โบกๆ ทำสัญลักษณ์แล้ว หลายครั้งก็จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เพราะเป็นภาษาสากล (Universal Language) ที่ผู้คนส่วนใหญ่ใช้กันนั่นเอง ตัวอย่างคำศัพท์และประโยคที่พบเจอกันบ่อยๆ เกี่ยวกับการเดินทางได้แก่

• Where is …(ชื่อสถานที่)…? – เป็นการถามง่ายๆ ว่าที่ที่เราต้องการไปอยู่ไหน เช่น Where is AUA LANGUAGE CENTER?
• How do I get to …(ชื่อสถานที่)…? ถามว่าจะไปสถานที่นั้นๆ อย่างไร เช่น How do I get to the shopping mall?
• Which transportation should I take?- ฉันควรจะโดยสารหรือใช้บริการขนส่งอะไร, Which way should I go? – ฉันควรไปทางไหนดี?

อีกทั้งยังมีคำศัพท์ที่ควรรู้ไว้ในการบอกทางง่ายๆ ตัวอย่างเช่น across (ตรงข้าม), next to (อยู่ข้างๆ), in between (อยู่ระหว่าง), on the other side (อยู่อีกด้านหนึ่ง) แค่เพียงนำคำศัพท์เหล่านี้มาเชื่อมกับชื่อสถานที่และทำให้เป็นประโยคก็บอกทางแบบพูดได้ง่ายๆ แล้ว

ประโยคทั่วไป ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์หรือโอกาสในการพูดภาษาอังกฤษมีหลากหลายมากๆ ซึ่งก็ต้องใช้คำศัพท์ที่แตกต่างกันไปเพื่อประกอบประโยคสนทนา ดังนั้นการรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันเอาไว้ก็เป็นการปูพื้นฐานได้ดีเลยทีเดียว

• You’re Welcome – ด้วยความยินดี
• Just Kidding – แค่ล้อเล่น
• Just a moment – รอสักครู่
• Nevermind – ไม่เป็นไร
• A piece of cake – ง่ายมาก
• Check please/ Bill please – คิดเงินด้วย
• It’s on me/ The bill is on me – ฉันจ่าย/เลี้ยงเอง
• Do you have a table for two? – คุณมีโต๊ะว่างสำหรับสองคนไหม?
• What have you been up to? – ช่วงนี้ทำอะไรบ้าง
• Break a leg! – ขอให้โชคดี

แนะนำคอร์สภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารจาก AUA LANGUAGE CENTER

การพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันให้เก่งขึ้น ต้องอาศัยการฝึกฝนและการทบทวนสม่ำเสมอ แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดีให้พูดได้อย่างคล่องแคล่ว หรืออยากเรียนคอร์สภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารกับเจ้าของภาษาโดยตรง ที่ AUA LANGUAGE CENTER เรามีคอร์สที่ตอบโจทย์!

English for Communication

หลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน พัฒนาทั้ง 4 ทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน ในบรรยากาศการเรียนการสอนที่เป็นกันเอง เข้าใจง่าย ตามระดับภาษาอังกฤษของผู้เรียน

• สอนสด โดยครูต่างชาติเจ้าของภาษาตัวจริง
• Oxford Interactive Online Self-Practice ฝึกฝนเพิ่มเติมผ่านแบบฝึกหัดออนไลน์ด้วยตนเอง ตามเวลาที่สะดวก
• เรียนสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ชั่วโมง 30 นาที

เหมาะกับผู้เรียนที่มีคุณสมบัติ ดังนี้

•  อายุ 15 ปี ขึ้นไป
• นักเรียน นักศึกษา วัยทำงาน หรืออยากเก่งภาษาอังกฤษก็เข้าเรียนได้

ดูรายละเอียดคอร์สเพิ่มเติมได้ที่: www.auathailand.org/courses/vista-e4c-th/

ABOUT AUA LANGUAGE CENTER

ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2495 ณ วังสราญรมย์ โดยสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์และการสนับสนุนของรัฐบาลอเมริกัน ปัจจุบัน “สถานสอนภาษาสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกา (AUA LANGUAGE CENTER)” เปิดการเรียนการสอนในหลากหลายหลักสูตรและสาขาทั่วประเทศไทย มุ่งมั่นมอบโอกาสในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา ภายใต้มาตรฐานการสอนและบุคลากรที่มีคุณภาพ มอบแนวทางการเรียนรู้ที่หลากหลาย ยืดหยุ่น พร้อมต่อยอดและใช้งานได้จริง

หากสนใจหรือมีคำถามเพิ่ม สามารถติดต่อ AUA LANGUAGE CENTER ได้ทาง

เว็บไซต์: www.auathailand.org/contactus

โทร: 02-114-7625

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับทางสถานสอนภาษา เอยูเอ ตามช่องทางสื่อสังคมออนไลน์

Facebook: AUA Language Center

Instagram: aualanguagecenter

LINE OA: @aualc