ปักหมุด 6 เคล็ด (ไม่) ลับเรียนพูดภาษาอังกฤษให้คล่องแคล่วเหมือนเรียนจากต่างประเทศ

ปักหมุด 6 เคล็ด (ไม่) ลับเรียนพูดภาษาอังกฤษให้คล่องแคล่วเหมือนเรียนจากต่างประเทศ

ปักหมุด 6 เคล็ด (ไม่) ลับเรียนพูดภาษาอังกฤษให้คล่องแคล่วเหมือนเรียนจากต่างประเทศ

การสื่อสารเป็นองค์ประกอบสำคัญของสังคมทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะการพูดคุยด้วยภาษาอังกฤษที่ถือเป็นภาษากลางและภาษาทางการของหลายประเทศทั่วโลก ในยุคดิจิทัลนี้ การเกิด Globalization ทำให้การติดต่อสื่อสาร การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ นั้นรวดเร็วและครอบคลุมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม การเรียนภาษาอังกฤษจึงเป็นทักษะที่ขาดไม่ได้ในปัจจุบัน เพื่อเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการศึกษาและต่อยอดอาชีพในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนพูดภาษาอังกฤษ

วันนี้ AUA จึงขอมาบอก 6 เคล็ดลับวิธีเรียนพูดภาษาอังกฤษให้คล่องแคล่วมากขึ้น พูดคุยกับชาวต่างชาติได้อย่างมั่นใจ เสริมทักษะการพูดอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ปักหมุด 6 เคล็ดลับเรียนพูดภาษาอังกฤษให้คล่องแคล่ว

จะมีวิธีการเรียนพูดภาษาอังกฤษอย่างไรบ้าง? มาดูกันเลย!

1. เปลี่ยนแนวคิดประโยคภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ

เนื่องจากเรามีภาษาไทยเป็นภาษาแม่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนส่วนใหญ่มักจะคิดประโยคการสนทนาด้วยภาษาไทยเป็นหลัก จากนั้นค่อยแปลไปเป็นภาษาอังกฤษทีหลัง แม้จะไม่ใช่หลักการคิดที่ผิด แต่ในทางกลับกัน หากเริ่มต้นคิดประโยคโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่เริ่มแรกจะส่งผลให้สามารถพูดคุยได้อย่างราบรื่นมากขึ้น ตัวอย่างเช่น

  • หากจะพูดว่า “รองเท้าคู่ที่เธอใส่มาสวยมากๆ เลย” ให้เริ่มคิดเป็นภาษาอังกฤษเลย อาทิ “I love your shoes.” หรือ “Your shoes look beautiful.” เป็นต้น

จากนั้นลองคิดเกี่ยวกับคำตอบที่จะได้รับและคำโต้ตอบต่อไป ขอแนะนำให้ลองฝึกคิดตั้งแต่ประโยคสั้นๆ ก่อนจะลองฝึกคิดประโยคที่ซับซ้อนมากขึ้น ค่อยๆ พัฒนาทักษะตนเอง

ซึ่งการทำแบบนี้เป็นการฝึกฝน ที่ช่วยได้หลายด้านในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ เช่น พูดโต้ตอบได้เร็วขึ้น เพราะไม่ต้องแปลหรือคิดเป็นภาษาไทยก่อนพูด สามารถคาดเดาคำตอบหรือคำถามที่อาจจะเจอในสถานการณ์ต่างๆ เสริมความมั่นใจขณะพูด และได้ฝึกสมองให้คุ้นเคยกับศัพท์หรือประโยคเหล่านั้น นับเป็นการเรียนพูดภาษาอังกฤษที่ได้ผลดีในระยะยาวอย่างมาก

2. รวบรวมแหล่งข้อมูลภาษาอังกฤษสำหรับเรียนรู้

การมีข้อมูล ความรู้ หรือหลักการพูดไว้สำหรับทบทวน ถือเป็นการเตือนความจำได้ดี และจะต้องเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มอบความสนุกอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้บนโลกอินเทอร์เน็ตก็มีแหล่งข้อมูลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบล็อก บทความ หรือเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษต่างๆ ที่คอยให้ความรู้ รวมไปถึงสื่อโซเชียลต่างๆ เช่น YouTube, หรือ Facebook ที่มีคอนเทนต์ในรูปแบบของวิดีโอและภาพให้ศึกษากันแบบสนุกๆ อีกทั้งยังมีบริการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix, LINE TV, Disney+, และอีกมากมายที่สามารถใช้เพื่อสร้างความบันเทิงและเก็บเกี่ยวความรู้ได้พร้อมๆ กัน

3. เลียนแบบวิธีการพูดภาษาอังกฤษ

หนึ่งในเรื่องที่ท้าทายที่สุดในการเรียนพูดภาษาอังกฤษก็คือการฝึกสำเนียงนั่นเอง เพราะบางครั้งชาวต่างชาติอาจไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เราพูดได้ เนื่องจากสำเนียงที่ไม่คุ้นหูหรือออกเสียงคำทำให้เข้าใจผิดนั่นเอง วิธีเรียนรู้การออกสำเนียงให้ชัดเจน ฟังง่าย ก็อาจต้องมีตัวอย่างให้สามารถทำตาม โดยอาจเริ่มจากเลือกคนที่ท่านชอบ มีน้ำเสียงดี ออกเสียงคำภาษาอังกฤษชัดเจน ซึ่งสามารถแบ่งการฝึกได้เป็น 2 ขั้นตอนดังนี้

  • ฝึกพูดออกเสียงแต่ละคำให้ชัดเจนและพูดตามทีละประโยคสั้นๆ
  • ปรับความเร็ว การขึ้นลงของโทนเสียง แล้วฝึกพูดตามประโยคยาวๆ ถ้าครั้งแรก ให้ฟังก่อนแล้วพูดตาม แต่เมื่อเริ่มคล่องแคล่วมากขึ้นให้ลองพูดตามไปได้เลยพร้อมกัน

หากใช้วิธีนี้เป็นประจำก็จะสามารถเลียนสำเนียงเจ้าของภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพูดได้คล่องแคล่วในที่สุดนั่นเอง

4. ฝึกใช้ Tongue Twister ในการออกเสียงคำ

ภาษาอังกฤษมีคำที่ออกเสียงยากอยู่มากมาย ยิ่งหากเป็นคำที่ออกเสียงคล้ายๆ กัน ในประโยคเดียวกันแล้ว ก็อาจทำให้ลิ้นพันกันได้ง่ายๆ เลยทีเดียว ซึ่งวิธีการฝึกการออกเสียงในด้านนี้ให้ดีขึ้น คือ “Tongue Twister”  โดยการอ่านแต่ละประโยคเดิมซ้ำๆ ประมาณสามถึงห้ารอบ หรือจนเมื่อรู้สึกว่าพูดคล่องแล้วเพื่อฝึกทักษะการพูดของตัวเองให้ดีขึ้น AUA มีตัวอย่าง Tongue Twister ดังนี้

  • “Can you can a can as a canner can can a can?” ฝึกออกเสียง เสียง /k/
  • “Santa’s short suit shrunk.” ฝึกออกเสียง /s/ กับ /sh/
  • “Send toast to ten tense stout saints’ ten tall tents.” ฝึกออกเสียงแยกระหว่างเสียง /s/ กับเสียง /t/

5. ฝึกเรียนรู้และพูดวลีใหม่ๆ อยู่เสมอ

การลองเรียนพูดภาษาอังกฤษจากวลีสั้นๆ จะช่วยให้สามารถพูดได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น และได้มีคลังคำศัพท์เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งวลีที่เจ้าของภาษามักใช้บ่อยๆ มีดังนี้

  • clean up แปลว่า ทำความสะอาด
  • bring in something แปลว่า นำบางสิ่งบางอย่าง, เอามาให้
  • keep up แปลว่า ทำต่อไป
  • look after แปลว่า ดูแล
  • show up แปลว่า แสดงขึ้นมา
  • look up to แปลว่า เคารพ
  • find out แปลว่า ค้นหา (บางสิ่งบางอย่างหรือข้อมูลบางอย่าง)

โดยสามารถนำวลีเหล่านี้มาพูดในประโยค ทำให้เข้าใจง่าย และถือเป็นการพัฒนาวิธีการพูดได้ดีอีกด้วย

6. ก่อนฝึกพูดในคล่องต้องฟังให้ดีก่อน

การจะฝึกพูดให้คล่องแคล่วก็ต้องฝึกการฟังให้ดีเสียก่อน เพราะในขณะที่ฟังไม่ออกก็จะไม่สามารถโต้ตอบแบบมั่นใจได้ แถมอาจจะไม่รู้วิธีการออกเสียงคำศัพท์ให้ถูกต้อง ดังนั้นการพูดกับฟังเป็นทักษะที่ต้องฝึกใช้กันบ่อยๆ พร้อมๆ กันถึงจะพูดภาษาอังกฤษเก่งขึ้นได้ โดยแนะนำให้เริ่มจาก

  • ใช้เวลาให้เพียงพอสำหรับการฝึกฟัง ฟังซ้ำๆ หากไม่แน่ใจบางคำ
  • ฟัง จดตามสิ่งที่ได้ยิน และย้อนฟังอีกครั้งว่าจดตามได้ถูกต้องหรือไม่
  • ท้ายที่สุดคือให้ลองออกเสียงตามและฝึกพูดได้เลย

วิธีเรียนพูดภาษาอังกฤษนี้ได้ทั้งการฝึกทักษะการฟังและพูดไปพร้อมๆ กัน ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย ทวีคูณประสิทธิภาพในการเรียนภาษาอังกฤษ

 

สำหรับนักเรียนนักศึกษาหรือท่านใดก็ตามที่ต้องการฝึกทักษะการพูดเพิ่มเติมจากเจ้าของภาษา ทาง AUA มีหลักสูตรเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยจะมีการประเมินระดับของภาษาอังกฤษก่อนเริ่มคอร์ส เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาจากระดับที่ถนัด

รายละเอียดหลักสูตร English for Communication เพิ่มเติมที่:

www.auathailand.org/courses/vista-e4c-th/

 

ABOUT AUA LANGUAGE CENTER

ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2495 ณ วังสราญรมย์ โดยสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์และการสนับสนุนของรัฐบาลอเมริกัน ปัจจุบัน สถาบันสอนภาษา เอยูเอ (AUA Language Center) มีการเปิดสอนในหลากหลายหลักสูตรและสาขาทั่วประเทศไทย มุ่งมั่นมอบโอกาสในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้กับบุคคลทุกคน ภายใต้มาตรฐานการสอนและบุคลากรที่มีคุณภาพ มอบแนวทางการเรียนรู้ที่หลากหลาย, ยืดหยุ่น, พร้อมต่อยอดและใช้งานได้จริง

สนใจหรือมีคำถามเพิ่ม สามารถติดต่อสถาบันสอนภาษา เอยูเอ ได้ ที่นี่ หรือโทร: 02-114-7625 นอกจากนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับทางสถาบันสอนภาษา เอยูเอ ได้ตามช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ Instagram, Facebook และ LINE